วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560

โรควัณโรคปอด เป็นโรคติดต่อและแพร่เชื้อกันได้ง่ายมาก

โรควัณโรคปอด เป็นโรคติดต่อและแพร่เชื้อกันได้ง่ายมาก การดูแลผู้ป่วยและคนใกล้ชิดจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อลดโอกาสการติดต่อไปยังผู้อื่น จะมีวิธีป้องกันอย่างไรนั้น เรามาทำความรู้จักกัน

วัณโรคติดต่อได้ทางการหายใจ จากการติดเชื้อโรคที่เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง โดยการสูดหายใจเอาฝอยละอองเสมหะที่ผู้ป่วยระยะแพร่เชื้อปล่อยออกมาจากการไอ จาม พูด หัวเราะ หรือร้องเพลง ซึ่งเชื้อสามารถ อยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง



ส่วนใหญ่มักเกิดโรคที่ปอด แต่ก็พบที่อวัยวะอื่นได้ เช่น ต่อมน้ำเหลือง หรือกระดูก ซี่งผู้ป่วยจะได้รับเชื้อจากคนใกล้ชิดในครอบครัว หรือในที่สาธารณะจากผู้ป่วยระยะแพร่เชื้อรายอื่น กลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ติดเชื้อเอชไอวี หรือไตวายเรื้อรัง เมื่อได้รับเชื้อจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคได้มากกว่าคนปกติหลายเท่า

ผู้ป่วยวัณโรคปอดจะมีอาการไอโดยมีเสมหะหรือไม่ก็ได้ บางรายจะไอเป็นเลือดได้มักจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หรือมีไข้ร่วมด้วย บางรายอาจมีอาการของวัณโรคนอกปอดไปพร้อมกัน เช่น มีก้อนที่คอ หรือปวดกระดูก ดังนั้นถ้าท่านมีอาการไอติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 2 สัปดาห์ ร่วมกับมีอาการอื่นๆ ดังที่กล่าวไปแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และทำการตรวจค้นหาในกรณีที่เข้าข่ายเป็นวัณโรคได้ โดยการเอกซเรย์ปอดร่วมกับการตรวจหาเชื้อวัณโรคจากเสมหะ

เมื่อวินิจฉัยวัณโรคปอดได้แล้ว แพทย์จะทำการรักษาด้วยการให้กินยาเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งถ้าเชื้อไม่ดื้อยาและผู้ป่วยกินยาสม่ำเสมอ จะหายขาดเกือบทั้งหมด แต่ในรายที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติหรือ มีโรคเรื้อรังรุนแรงอยู่เดิม เมื่อหายแล้วต้องคอยรักษาสุขภาพและโรคที่มีอยู่เดิมให้ดีเพื่อป้องกันการกลับเป็นวัณโรคซ้ำได้

เนื่องจากโรคนี้ติดต่อแพร่เชื้อกันได้ง่ายมาก จึงควรระวังเป็นพิเศษ สำหรับผู้ป่วยควรดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด โดยการกินยาให้ครบ ไม่หยุดยาเองเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เชื้อดื้อยาได้ เวลาไอจามต้องปิดปากและจมูกให้มิดชิด ถ้ามีเสมหะต้องบ้วนใส่ภาชนะที่มิดชิด แล้วเททิ้งในโถส้วม การกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะและพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว คนที่สูบบุหรี่หรือดื่มสุราอยู่ก็ต้องงดด้วย เพื่อให้โรคหายขาดได้ดีขึ้น ส่วนผู้ใกล้ชิดควรช่วยดูแลให้ผู้ป่วยกินยาอย่างสม่ำเสมอ และช่วยสนับสนุนให้ผู้ป่วยมารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ควรจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกและมีแสงแดดส่องถึง ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยในระยะใกล้ชิดในช่วง สัปดาห์แรกของการกินยา หรือถ้าผู้ป่วยยังไอมากอยู่ แต่สำหรับคนทั่วไปแล้ววัณโรคปอดไม่ได้ติดต่อกันได้ง่ายหรือรักษาไม่หาย จึงไม่ควรรังเกียจผู้ป่วยวัณโรค อีกทั้งต้องรักษาสุขภาพโดยทั่วไปให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงสิ่งเสพติด เพื่อไม่ให้วันหนึ่งต้องกลายมาเป็นผู้ป่วยวัณโรค

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ธุรกิจ Startup เกี่ยวกับ IoT ที่มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ด้านการดูแลสุขภาพ และการใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อถึงกัน

ธุรกิจ Startup เกี่ยวกับ IoT ที่มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ด้านการดูแลสุขภาพ และการใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อถึงกัน เพื่อการวินิจฉัย, ตรวจสอบ ,บริการผู้ป่วย และทำการรักษาผู้ป่วยได้ดีกว่าและง่ายกว่าเดิม ซึ่งอุปกรณ์ IoT ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่อุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ (Wearable devices) เพื่อการตรวจสอบติดตามผู้ป่วยได้ดีขึ้น ขณะที่ในโรงพยาบาลยังมีเซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการด้านสุขภาพและการตรวจสอบติดตามผู้ป่วยแบบ Realtime โดยการทำ Startup เกี่ยวกับด้านสุขภาพ และแอพพลิเคชั่นสำหรับคนรักสุขภาพมีหลากหลาย เช่น การติดตามการนอนหลับ, การติดตามดูแลเด็กอ่อน (Baby monitoring) และการติดตามการออกกำลังกาย (Fitness wearable) เป็นต้น

ตัวอย่างธุรกิจ Startup ด้านการดูแลรักษาและสุขภาพในประเทศสหรัฐอเมริกาที่นำ IoT มาใช้แล้ว ได้แก่

iot-startup-healthcare-1

(1) ธุรกิจ Startup ประเภทที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านคลินิก (Clinical efficiency) เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในมุมมองของแพทย์ผู้รักษาและผู้ป่วยที่ได้รับบริการ คือการนำอุปกรณ์หรือวัตถุที่เชื่อมต่อมาใช้เพื่อปรับปรุงการส่งมอบบริการที่ดีด้านการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาลและคลินิก และยังตรวจสอบติดตามการรักษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งได้แก่ บริษัท Augmedix และ Obaa ที่มีการนำอุปกรณ์สวมใส่ประเภท smartglass อย่างเช่น Google Glass มาใช้สำหรับ Healthcare และ Simplifeye ที่ช่วยแพทย์ให้ใช้ Apple Watch ในการตรวจสอบติดตามผู้ป่วยและเข้าถึง EMR ได้ดีขึ้น, บริษัท Awarepoint ใช้เซ็นเซอร์ IoT สำหรับการติดตาม location ของผู้ป่วยและเครื่องมือทางการแพทย์ได้อย่าง Real-time และ AdhereTech เป็นอีกหนึ่ง Startup ที่เชื่อมต่อขวดยาเพื่อใช้ในการติดตามการใช้ยาทางการแพทย์

(2) ธุรกิจ Startup เกี่ยวกับเซ็นเซอร์ชีวภาพ และอุปกรณ์ที่สวมใส่ในระดับที่ใช้ในมนุษย์ จะเน้นการเชื่อมต่อเซ็นเซอร์ชีวภาพ (biometric sensor) ที่ใช้ในคลินิกและโรงพยาบาล หรืออาจใช้ในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA เช่น บริษัท EarlySense และ Monica Healthcare, บริษัท Quanttus และ MC10 มีการพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ในมนุษย์ ที่กำลังจะให้ FDA ทำการอนุมัติ หรือเครื่องมือทางการแพทย์อื่นๆที่ใช้ IoT เช่น Eyenetra ทำให้สมาร์ทโฟนสามารถนำมาใช้เป็น “auto-refractor” สำหรับทดสอบสายตา

(3) ธุรกิจเกี่ยวกับการตรวจสอบติดตามผู้ป่วย จะเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีออกสู่ตลาดให้แก่ผู้บริโภค สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลทางชีวภาพ เช่น บริษัท Chrono Therapeutics เป็นผู้เริ่มต้นในการตรวจหาสารเสพติด และบริษัท Kinsa ผลิตเครื่องวัดอุณหภูมิอัจฉริยะ และยังมีระบบตรวจสอบติดตามของบริษัท Qardio และ AliveCor ที่พัฒนาเครื่องตรวจสอบติดตามสำหรับการทดสอบ ECG (electrocardiogram) จากบ้าน

(4) ธุรกิจเกี่ยวกับด้านประสาท (neurotechnology) หรือเซ็นเซอร์สมอง ส่วนใหญ่จะพยายามสร้างเครื่องมือที่สามารถแฮ็กสมองมนุษย์ได้ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง โดยการสวมใส่อุปกรณ์ที่ศรีษะมนุษย์ เช่น บริษัท Ybrain และ InteraXon ที่สร้างแถบคาดศีรษะเพื่ออ่านคลื่นสมอง และบริษัท Thync พัฒนาการส่งผ่านกระแสประสาทระหว่างสมองไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายเพื่อยกระดับหรือปรับอารมณ์ของผู้ป่วยได้ นอกจากนี้ บริษัท Neurovigil ยังมีโครงการที่มุ่งเน้นทางด้าน neurotechnology (การอ่านและบันทึกคลื่นสมอง) เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของยา ซึ่งบริษัท Neurovigil สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

(5) ธุรกิจทางด้าน Fitness wearable ได้แก่ บริษัท Lumo และ OMsignal ที่สามารถพัฒนา Fitness wearable ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สวมใส่ขณะออกกำลังกาย และติดตามเก็บข้อมูลได้อย่าง Realtime

(6) ธุรกิจ Startup เกี่ยวกับการติดตามการนอนหลับ เช่น บริษัท Hello และ Beddit ที่เน้นในเรื่องการติดตามการนอนหลับโดยเฉพาะ และธุรกิจเกี่ยวกับการติดตามทารก เช่น บริษัท Owlet และ Sproutling ที่พัฒนาเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่สวมใส่ ที่สามารถติดตามการเคลื่อนไหวและอวัยวะที่สำคัญของทารก

ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมภาค Healthcare แต่เทคโนโลยี IoT ได้เข้ามาเป็นผู้เปลี่ยนเกมในระบบอัตโนมัติของอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การเริ่มติดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน IoT ให้เป็น platform ขององค์กรต่างๆ โดยได้มีการเริ่มต้นใช้งานและทดสอบระบบ IoT ให้สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ในอดีต เพื่อให้เกิดประโยชน์และคุณค่าใหม่ๆแก่อุตสาหกรรม ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อลดต้นทุนด้วยการแทนการใช้แรงงานคน แต่ได้ประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าการใช้แรงงานคนด้วยการตอบสนองต่อปัญหาแบบ Realtime

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ผู้ป่วยวัณโรคในพื้นที่กรุงเทพฯ มีประมาณ 14,000 คน แต่ขึ้นทะเบียนเข้ารับการรักษา 10,000 คน

ตัวเลขที่ไม่ขึ้นทะเบียน น่าเป็นห่วง เพราะวัณโรคเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อกันทางอากาศ ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: WHO จี้ กทม. เร่ง 4 แผนควบคุม “วัณโรค”
“องค์การอนามัยโลก” จี้ กทม. เร่ง 4 แผนควบคุม “วัณโรค” คาดยอดผู้ป่วยสะสม ในกรุงเทพฯ 1.4 หมื่นคน
ธ.ค.59 - นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯกทม. ให้การต้อนรับผู้เชี่ยวชาญด้านวัณโรคจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อตรวจติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานควบคุมวัณโรคแห่งชาติในพื้นที่กรุ งเทพฯ พร้อมทั้งเป็นประธานการประชุมรายงานสรุปผลการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้ากา รดำเนินงานวัณโรคของสถานพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อหารือแนวทางการมุ่งสู่ยุทธศาสตร์ยุติวัณโรค (The End TB Strategy) โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านวัณโรคจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกอบด้วย Dr.Paul Nunn Dr.C.N.Paramasivan Dr.Muta Shama และ Dr.Daniel Kertesz และหน่วยงานในกทม. ประกอบด้วย สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานควบคุมวัณโรคแห่งชาติในพื้ นที่กรุงเทพฯ ของผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก โดยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2559 ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานในสถานพยาบาล 6 แห่ง ประกอบด้วย สถานพยาบาลของกรุงเทพมหานคร 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 15 (ลาดพร้าว) โรงพยาบาลกลาง คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช สถานพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหม 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี และสถานพยาบาลเอกชน 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา
รายงานข่าวระบุว่า ผู้แทนองค์การอนามัยโลกได้แนะนำแนวทางการดำเนินงาน 4 ข้อ ดังนี้
1.ให้มีระบบรายงานผู้ป่วยให้มีความครอบคลุมเพิ่มขึ้น
2.ควรมีการสนับสนุนระบบส่งต่อผู้ป่วยเพื่อรับการรักษาต่อเนื่องในสถานพยาบาล อื่นๆ ที่ครอบคลุมผู้ป่วยมากขึ้น ซึ่งกทม.ได้จัดตั้งศูนย์ส่งต่อผู้ป่วยวัณโรคตั้งอยู่ที่ กองควบคุมโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางแพทย์สัมพันธ์ สำนักอนามัย
3.มีการดูแลผู้ป่วยโดยให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางมากขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความสะดวกในการดูแลรักษา และ
4.มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้สูงอายุ และผู้ติดยาเสพติด
“สำหรับประมาณการผู้ป่วยวัณโรคในพื้นที่กรุงเทพฯ มีประมาณ 14,000 คน แต่ขึ้นทะเบียนเข้ารับการรักษา 10,000 คน โดยจากนี้ กทม.จะได้นำไปเป็นแนวทาง พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การป้องกัน และดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” รายงานข่าว ระบุ
http://www.komchadluek.net/news/regional/252561

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เรื่องแมว แมว ที่ทำให้คนแพ้ !!!

เรื่องแมว แมว ที่ทำให้คนแพ้ !!!

ผลสำรวจของ American College of Allergy, Asthama and Immunology มีคนประมาณ 10% ที่มีอาการแพ้สัตว์เลี้ยง และมีคนที่แพ้แมวมากเป็น... 2 เท่าของสุนัข และสำหรับเด็กอายุ 6 - 19 ปี มีเด็กประมาณ 1 ใน 7 ที่แพ้แมว
ความจริงแล้ว ไม่ใช่ขนแมวที่ทำให้เกิดอาการแพ้ คนที่แพ้แมวเกือบทั้งหมด แพ้โปรตีน Felis domesticus allergen 1 เรียกย่อๆ ว่า Fel d 1 ที่อยู่ในผิวหนังของแมว

สาเหตุที่ทำให้เกิดการแพ้แมวมากกว่าสุนัข เพราะขนาด และรูปร่างของอนุภาคโปรตีน Felis domesticus allergen 1 เรียกย่อๆ ว่า Fel d 1 ที่เล็ก และเบามาก มันมีขนาดเพียง 1 ใน 10 ของสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นฝุ่น Fel.d1 จะมีอยู่ในน้ำลายและผิวหนังของแมวทุกตัว และสามารถลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง แถมยังเหนียวหนึบ

สามารถเกาะติดกับผิวหนังมนุษย์ เสื้อผ้า และติดอยู่อย่างนั้นได้เป็นเวลานาน ทำให้สารก่อภูมิแพ้ของแมวมีอยู่ทั่วไป แม้ในสถานที่ที่ไม่มีแมวอย่าง ห้องเรียน คลินิก ทีนี้พอจะนึกออกหรือยังว่าเราแพ้ขนแมวได้ยังไง ก็เมื่อแมวเลียตัวเอง Fel.d1 ก็จะเคลือบอยู่ที่เส้นขนของแมว ดังนั้นไม่ว่าแมวขนสั้น ขนยาว หรือแมวไม่มีขน คุณก็เกิดอาการแพ้ได้อยู่ดี และสารตัวนี้ยังสะสมอยู่ได้นาน 5-6 เดือนเลยเชียวและแมวตัวผู้ โดยเฉพาะแมวที่ไม่ถูกตอน จะผลิต Fel d 1 มากกว่าแมวตัวเมีย อันเป็นผลมาจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
อาการของโรคภูมิแพ้คงไม่ต้องบอกอะไรมาก โดยมากจะรู้ๆกันอยู่ เช่น คันตามผิวหนัง คันตา คันจมูก จาม น้ำมูกไหล ไปจนถึงหายใจไม่ออก เป็นหอบหืด หายใจไม่ออก

แมว หรือ แมวบ้าน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Felis catus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อยู่ในตระกูล Felidae ต้นตระกูลมาจากเสือไซบีเรีย (Felis tigris altaica) จัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อ มีเขี้ยวและเล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ

โดยทั่วไปมีการแบ่งพันธุ์แมวออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ แมวขนยาว (longhaired cat) และ แมวขนสั้น (shorthaired cat) แมวในโลกนี้มีมากมายหลายพันธุ์ โดยเฉพาะแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงหรือที่เราเรียกว่า Domestic cat นั้นมีวิวัฒนาการมาจากแมวป่าในธรรมชาติจากหลายภูมิภาคของโลก

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

โซนทำลายเชื้อโรคทางอากาศ Plasmacluster zone เหมาะสำหรับคนที่ไม่ควรเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ

โซนทำลายเชื้อโรคทางอากาศ
Plasmacluster safety zone

สามารถทำได้เอง กำหนดพื้นที่ตามที่ต้องการ ใช้ในโรงพยาบาล โรงงาน โรงเรียน ที่ทำงาน บ้าน แม้กระทั่ง เตียงนอน
Plasmacluster zone เหมาะสำหรับคนที่ไม่ควรเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ คนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน เช่น ผู้ที่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ ผู้ที่อยู่ในช่วงที่มีการระบาดของโรคทางเดินหายใจ

โซนทำลายเชื้อโรคทางอากาศ เป็นโซนที่เกิดขึ้นจากการเปิดเครื่องฆ่าเชื้อโรคทางอากาศ ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster air sterilizer) ทำให้โซนที่ถูกกำหนดไว้ มีปริมาณไอออนลอยอยู่เป็นจำนวนมาก ไอออนเหล่านี้ถูกผลิตพ่นออกมาจากเครื่องอย่างต่อเนื่อง

พลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนที่ล่องลอยในโซนนี้ จะทำลายเชื้อโรคทันที ที่เชื้อโรคเข้ามาปรากฎในโซน ไม่ว่าจากการหายใจ ไอ จาม จากคน หรือ ลมจากท่อปรับอากาศส่วนกลาง ที่ย่างกรายเข้ามาใน Plasmacluster zone แม้กระทั่งเชื้อโรคที่ติดตามผิวหนัง เสื้อผ้า ก็จะถูกพลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนทำลายทันทีที่เข้ามาในโซน
.
Plasmacluster zone มีประโยชน์ในการใช้ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคเชิงรุก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคในระยะประจันหน้า ณ จุดปะทะ (ระบบกรองอากาศ หรือ UV ไม่สามารถทำได้) ... จากการศึกษาพบว่า ถึงเราจะทำความสะอาดห้องหรือสถานที่ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือ เปิด UV เข้มข้น แล้วก็ตาม ห้องเหล่านี้ก็สะอาดในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อมีคนเข้ามา คนนี่แหละเป็นพาหะนำเชื้อโรคเข้าในห้องอีกครั้ง เชื้อโรคจะติดตามตัวมา หรือ การไอ จาม หายใจ ภายในห้อง ทำให้เชื้อโรคกระจายได้ใหม่ทั่วห้อง ซึ่งไม่มีอาวุธอะไรมาจัดการมัน
... อีกแหล่งเชื้อโรคหนึ่งคือ ท่อปรับอากาศส่วนกลาง ที่พ่นลมเย็นเข้ามาในแต่ละห้อง เป็นท่อกระจายเชื้อโรคดีๆนี่เอง ที่เกิดจากส่วนของมันเองที่เชื้อราเชื้อแบคทีเรียเข้ามาเจริญเติบโตภายในท่อหล่อเย็น หรือ เกิดจากเชื้อโรคที่แพร่จากคนเป็นพาหะ จากห้องหนึ่งสู่อีกห้องหนึ่ง
... “ป้องกัน” ดีกว่า “รักษา” ถ้าเป็นแล้วแย่ จะแก้ไม่ทัน
.
โซนพลาสม่าคลัสเตอร์เหมาะกับการใช้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงการปนเปื้อนของเชื้อโรคสูง หรือ จุดที่มีการเผชิญหน้ากันของคนทำงาน หรือ ต้องการให้มีการปนเปื้อนเชื้อโรคต่ำสุด เช่น โรงพยาบาล (โดยเฉพาะ OPD/ER/ENT) , โรงงาน โรงเรียน , office building , โรงแรม
.
Plasmacluster zone สามารถสร้างครอบคลุมพื้นที่ได้ทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น 9 ตร.ม. หรือ มากกว่า 2000 ตร.ม. ตามรูปแบบหลากหลายของอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง ณ จุดตรวจ วางบนโต๊ะ วางบนพื้น แขวนผนัง ติดตั้งในปลายท่อลม โดยสามารถสร้างโซนครอบคลุมได้ในพื้นที่ระบบเปิดหรือปิดอากาศก็ได้
.
ผลการทดสอบจาก 28 สถาบันวิจัยนานาชาติ พลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนสามารถทำลายเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย รวมถึง เชื้อรุนแรงต่างๆ เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เชื้อวัณโรค ด้วยการทำลายเปลือกผิวนอกของเชื้อโรค
.
งานวิจัยล่าสุดจากโรงพยาบาลวัณโรคจอร์เจีย เครือข่ายขององค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่า Plasmacluster HD 100000 ลดความเสี่ยงลดจำนวนบุคลากรการแพทย์ที่จะติดเชื้อวัณโรคในโรงพยาบาลวัณโรค ได้ถึง 4 เท่าตัว
.
พลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนจะทำลายผิวนอกของเชื้อโรคทันทีที่ปะทะกัน แต่เราก็ต้องคำนึงถึงความรวดเร็วและระยะห่างด้วย ความเข้มข้นของพลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนที่สูงๆเป็นตัวแปรของประสิทธิภาพ ให้สูงตามด้วย
.
การนำ Plasmacluster ใช้ตามบ้าน แค่ระดับความเข้มข้น 7000 ก็อาจเพียงพอ แต่หากมาใช้ในพื้นที่เสี่ยงสูง ควรใช้ Plasmacluster HD อย่างน้อย 25000 ไอออนต่อซีซี
.
เคยมีการศึกษาความเสี่ยงของบุคลากรแพทย์ในโรงพยาบาล พบว่าพยาบาลเป็นคนที่เสี่ยงติดเชื้อวัณโรณสูงสุด รองลงมาคือหมอ ... แผนกที่พบการติดเชื้อวัณโรคเป็นอันดับแรกคือ แผนกOPD , Med , ER , ENT ตามลำดับ ... การนำโซนพลาสม่าคลัสเตอร์ มาใช้ป้องกันเชิงรุก เป็นสิ่งที่ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อโรคจากคนภายนอกหรือผู้ป่วยได้ดีที่สุด
.
Plasmacluster air sterilizer HD มีค่าอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนตามอายุใช้งานที่ต่ำมาก ชุดสร้างไอออนเป็นสิ่งเดียวที่ต้องเปลี่ยน หลังจากใช้งานเกิน 17,500 ชั่วโมง (ใช้งานได้ ปี หากเปิดเครื่องวันละ ชั่วโมง)
.
ปัจจุบัน แนวการสร้าง Plasmacluster zone ถูกนำไปใช้สร้างโซนดังกล่าว ในโรงพยาบาล โรงงาน โรงเรียน ที่ทำงาน สถานเลี้ยงเด็ก สถานพักฟื้นผู้สูงอายุ หน่วยงานราชการ ศาล คลีนิคทันตแพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ เพื่อปกป้องลดความเสี่ยงต่อคนของตัวเอง ต่อการรับเชื้อโรคทางอากาศ ไม่ว่าจากคนนอก หรือผู้ป่วย ที่นำเข้ามาสถานที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้





วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การทดสอบที่เหลือเชื่อ...พลาสม่าคลัสเตอร์ เป็นเครื่องมือเดียวที่ถูกพิสูจน์ว่าป้องกันการเสี่ยงรับเชื้อวัณโรคในโรงพยาบาล

ประสิทธิภาพเทคโนโลยี่พลาสม่าคลัสเตอร์ในการลด                         
ความเสี่ยงบุคลากรต่อการติดเชื้อวัณโรคในโรงพยาบาล                      

Plasmacluster Technology Proven to Decrease

Risk of Tuberculosis Infection in Tuberculosis Hospital

อุปกรณ์ทดสอบ
เครื่องฆ่าเชื้อโรคทางอากาศ พ่นอนุภาคพลาสม่าคลัสเตอร์เฉลี่ย 100,000 ไอออนต่อซีซี จำนวน 140 เครื่อง ถูกติดตั้งบนวอร์ดที่กำหนดทั้งในห้องและบริเวณทางเดินอาคาร

วิธีการทดสอบ
ตรวจเช็คผลที่ต้องการประเมิน เปรียบเทียบระหว่าง วอร์ดที่ติดตั้งเครื่องพลาสม่าคลัสเตอร์ กับ วอร์ดที่ไม่ได้ติดตั้ง
1.            
บุ     บุคลากรที่ทำงานบนวอร์ด 88 คน ถูกนำเลือดมาตรวจสอบเชื้อวัณโรคด้วยวิธี QuantiFERONR-TB Gold In-Tube (QFT)  หาคนติดเชื้อชนิด Latent Tuberculosis Infection (LTBI)  ปรากฎว่ามีจำนวน 32 คน ที่ตรวจไม่พบเชื้อ (QFT Negative)   หลังจากทำงานบนวอร์ดตามปรกติ 6-8 เดือน ไปแล้ว  ก็นำเจ้าหน้าที่ 32 คนนั้นมาตรวจ QFT อีกครั้ง

Ward
จำนวนเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ทั้งหมด
Odds
QFT Negative
QFT Positive
ติดตั้ง Plasmacluster
10
1
11
0.10
ไม่ติดตั้ง Plasmacluster
15
6
21
0.40



32

 คำนวณทางสถิติออกมาแล้ว วอร์ดที่ติดตั้งอุปกรณ์ สามารถลดความเสี่ยงของบุคลากรโรงพยาบาลในการติดเชื้อวัณโรคชนิด Latent Tuberculosis infection ได้  75% เมื่อเทียบกับวอร์ดที่ไม่ได้ติดตั้ง
2.       
    
       นำเชื้อวัณโรคที่ได้จากคนไข้ 155 ราย มาทำ Drug Susceptibility Testing (DST) หลังจากผ่านไป 3 เดือน  ตรวจพบคนไข้ 49 รายที่ยังมีผล DST positive อยู่ นำมาตรวจหา Acquired drug resistance (ADR) ว่ามีกี่รายที่พบเชื้อวัณโรคดื้อยา

                Ward
จำนวนเจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่ทั้งหมด
Risk
ADR No
ADR Yes
ติดตั้ง Plasmacluster
25
1
26
3.8%
ไม่ติดตั้ง Plasmacluster
19
4
23
17.4%



49

คำนวณทางสถิติออกมาแล้ว วอร์ดที่ติดตั้งอุปกรณ์ ลดการเกิดเชื้อวัณโรคที่ดื้อยาได้  78% เมื่อเทียบกับวอร์ดที่ไม่ได้ติดตั้ง

ความคิดเห็นของทีมวิจัย
มาตราการณ์ป้องกันการแพร่เชื้อวัณโรคได้ถูกกำหนดให้ใช้มานาน อาทิเช่น การระบายอากาศ , UV   ถูกนำมาใช้เบื้องต้นในโรงพยาบาลทั่วไป  งานวิจัยที่ค้นพบใหม่ๆของเทคโนโลยี่พลาสม่าคลัสเตอร์นี้  จะเป็นการเพิ่มทางเลือกที่เป็นโอกาสสำคัญในอนาคต อันจะป้องกันการแพร่เชื้อวัณโรคในโรงพยาบาลที่มีปัญหาและความเสี่ยงสูง
***************************************************************************

References  : 
·         Acquired drug resistance among TB patients undergoing treatment at NCTLD hospital within different exposure levels of plasmacluster, No. 2083101-17. National Center For Tuberculosis and Lung Diseases, Tbilisi.
·         Acquired rate of infection among NCTLD staff within different exposure levels of SHARP plasmacluster equipment, No. 687101-17. National Center For Tuberculosis and Lung Diseases, Tbilisi.
·         Sharp news release about Plasmacluster technology prevent to decrease risk of tuberculosis infection in tuberculosis hospital for the first time. Sep 8 ,2016.
·         Sharp Corporation , in corperation with WHO Global Health Workforce Alliance National Center of Tuberculosis and Lung Disease in Tbilisi, Georgia.

·         สถาบันวิจัย National Center of Tuberculosis and Lung Diseases (NCTLD)
เป็นองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร ก่อตั้งปี 2001 หน่วยงานอยู่ที่ประเทศจอร์เจีย  ดำเนินการเกี่ยวกับด้านวิจัยเชื้อวัณโรคระดับนานาชาติ 
ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์เชื้อวัณโรค  การรักษาคนไข้วัณโรค  ตลอดจนการป้องกันการแพร่เชื้อวัณโรค 

·         Plasmacluster is a trademark of Sharp Corporation.